Alita Battle Angel เรื่องนี้ถ้าได้ดูจากหนังตัวอย่างแล้วก็จะเป็นเรื่องราวที่พาเราไปอีกยุคหนึ่ง คือเนื้อเรื่องจะเป็นการพูดถึงโลกอนาคตในศตวรรษที่ 26 เรื่องนี้หากใครเป็นแฟนการ์ตูนมังงะของญี่ปุ่นมาก่อน แล้วมีโอกาสได้มาดูหนังในเวอร์ชันนี้ก็อาจจะเข้าใจและตื่นตาตื่นใจไปกับเนื้อเรื่อง แต่หากใครที่ยังไม่เคยดูมาก่อนก็อาจจะต้องใช้จินตนาการสักหน่อย โดยเรื่องนี้เราได้ผู้กำกับที่ประสบความสำเร็จในการสร้างหนัง Avatar มาแล้วในปี 2009 และประสบความสำเร็จมากในเวลานั้น คือ เจมส์ คาเมรอน เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งโปรเจคที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะเป็นอีกหนังทำเงิน ซึ่งก่อนจะไปดูหนังออนไลน์กัน จะพาคุณไปสปอยเรื่องนี้และความเป็นมาเป็นไปสักหน่อยเรื่องราวในหนังจะเป็นการสร้างเรื่องที่เกิดขึ้นในอนาคตที่ ดร. อิโต ได้ไปเจอกับซากหุ่นยนต์ไซเบอร์ที่ตกลงมาอยู่ในกองขยะ เรียกว่าเป็นชิ้นส่วนหัวเพียงเท่านั้น และได้นำชิ้นส่วนนี้กลับไปซ่อมแซมแล้วตั้งชื่อว่า อลิตา ซึ่งตัวหุ่นยนต์ตัวนี้ได้ลืมความทรงจำของตัวเองไปทั้งหมด เหลือเพียงความสามารถในการต่อสู้แบบ พันเซอร์ คุณซ์ ที่ติดตัวมา ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ของดาวอังคารที่หายสาบสูญไป 300 กว่าปีแล้ว ทำให้เราเห็นว่าอลิตามีความสามารถต่อสู้กับวายร้ายได้ไม่เหมือนใครและมีความแข็งแกร่งมาก และด้วยเหตุที่ความจำของเธอหายไปทำให้เป็นสตอรี่ของหนังเรื่องนี่ เธอต้องการ
ตามหาความทรงจำของตัวเอง ในเรื่องนี้เราเหมือนพาตัวเองไปอีกหนึ่งจักรวาลและไปดูการต่อสู้ของหุ่นยนต์ที่ตามหาตัวเองว่าเป็นใครมาจากไหน
ในหนังเรื่องนี้แน่นอนว่าหากเราเคยอ่านฉบับการ์ตูนมาก่อนก็จะเกิดข้อเปรียบเทียบ ตั้งแต่เนื้อเรื่องไปจนถึงลักษณะตัวละคร เริ่มต้นกันที่เนื้อเรื่องอาจจะมีการดัดแปลงบ้างเล็กน้อยเพื่ออรรถรสในการรับชม แต่ก็ยังคงกลิ่นอายเนื้อเรื่องเดิมเอาไว้อย่างไม่ผิดเพี้ยน ต่อมาตัวของอลิตาเองสิ่งที่เราสังเกตเห็นชัดเจนที่สุดคือดวงตา และเป็นที่พูดถึงกันมาก ที่เป็นเช่นนี้ทางผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน ได้กล่าวไว้ว่า อยากให้ตัวละครคงความเป็นตัวเองเหมือนในการ์ตูน กรทำตาให้โตขึ้นเพื่อจะได้แยกออกว่าอลิตาเป็นหุ่นยนต์ และอีกส่วนที่มีความแปลกใหม่ในเวอร์ชันหนังคือศิลปะการต่อสู้ เพราะโดยปกติหนังสไตล์นี้เราจะเห็นการยิงกันมากกว่าการต่อสู้อื่น แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่าตัวอลิตามีความสามารถพิเศษการต่อสู้แบบ พันเซอร์ คุณซ์ ทำให้มีการยิงกันในเรื่องน้อยมาก จะเน้นการต่อสู้ด้วยดาบและการใช้ร่างกายต่อสู้มากกว่า ที่สำคัญที่สุดเราจะเห็นว่าการทำตัวละครอะนิเมชันของอลิตาดูสมจริงมาก เนื่องจากทางผู้กำกับมีประสบการณ์ทำหนังเรื่อง Avatar มาแล้ว และได้พัฒนาเทคนิคเพื่อใช้ในหนังเรื่องนี้
ว่าไปแล้วใครที่อยากดูหนัง หากต้องให้คะแนนกันจริงๆก็อยู่ประมาณ 7/10 น่าจะได้ เพราะหากในเวอร์ชันการ์ตูน ตัวละครเอกอลิตาถูกปูทางเอาไว้อย่างละเอียด ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และต้องการค้นหาตัวเองได้อย่างไร แต่เมื่อมาเป็นหนังที่จำกัดเวลาฉาย มีข้อจำกัดหลายส่วน ทำให้ทำออกมาได้ดีที่สุดเท่าที่เราเห็น แต่โดยภาพรวมแล้วก็ยังถือว่าเป็นหนังต่อสู้ ชวนติดตาม และดูได้ทุกวัย